วันอังคารที่ 20 สิงหาคม พ.ศ. 2556

"ระบอบทักษิณ" คืออะไร ?

"ระบอบทักษิณ" คืออะไร ?

○ ระบอบทักษิณ คือ การผูกขาดในการกำกับดูแลประเทศ เศรษฐกิจขับเคลื่อนด้วยระบบทุนนิยมเต็มตัว ซึ่งคุณลักษณะที่สำคัญ 10 ประการของระบอบทักษิณมี ดังนี้...

1. ใช้อำนาจเบ็ดเสร็จเด็ดขาด ที่เรียกกันว่าซีอีโอ โดยซีอีโอจะมีอำนาจสั่งการทุกอย่างได้ดั่งใจนึก เหล่าขันทีไร้สมองจะมีหน้าที่ทำตามสั่งเท่านั้น การดำเนินนโยบายแบบ “คุณพ่อรู้ดี” โดยไม่จำเป็นต้องรับฟังความเห็นจาก สื่อมวลชน และนักวิชาการ รวมทั้งประชาชนทุกคนซึ่งมีหน้าที่เพียงกาบัตรเลือกตั้งเท่านั้น

2. ปราศจากความรับผิดชอบ โครงการ “คิดเร็วทำเร็ว” ที่ถูกคิดค้นขึ้นจำนวนมาก และใช้ภาษีอากรของคนไทย และประชาชนคนไทย เป็น “หนูทดลอง” ทำ 10 เรื่อง ผิดพลาด 9 เรื่อง ก็ไม่จำเป็นต้องรับผิดชอบ ก็ของมันผิดกันได้ ส่วนเรื่องไหนที่สำเร็จ ก็ตีปี๊บให้ดัง ๆ ให้พวกรากหญ้าได้รู้กันทั่ว

3. มอบปัญหาให้ศรีธนญชัยช่วยเคลียร์ ผลประโยชน์ของธุรกิจและบุคคลในครอบครัวหลายเรื่องที่หมิ่นเหม่ต่อการผิดกฎหมาย ก็ยกให้นักกฎหมายศรีธนญชัยไปหาช่องโหว่ของกฎหมาย หรือกระทั่งแก้กฎหมายบ้านเมืองให้สอดคล้องกับการดำเนินธุรกิจ

4. เฉลี่ยงบประมาณนิดหน่อยเพื่อพัฒนาคน คนฉลาดปกครองยาก คนโง่ปกครองง่ายกว่า จึงไม่จำเป็นต้องสูญเสียงบประมาณแผ่นดินจำนวนมากเพื่อการศึกษา สู้ออกโทรทัศน์แจกเงินสด ๆ อย่างรายการเรียลลิตี้แก้จนที่อาจสามารถดีกว่า ได้คะแนนเสียงมาตั้งเยอะ อนึ่ง โปรดทราบสถาบัน IMD เพิ่งลดอันดับความสามารถในการแข่งขันของไทยลงมาถึง 5 อันดับ และที่ตกต่ำมากสุดก็คือขีดความสามารถทางด้านการศึกษาของไทย

5. อุดมไปด้วยผลประโยชน์ทับซ้อน เพื่อประโยชน์สูงสุดของพวกเราชาวไทย (รักไทย?) จึงมีความจำเป็นต้องกำหนดนโยบายประเทศให้สอดคล้องกับนโยบายของธุรกิจครอบครัวและพรรค (พวก) โดยการให้ผู้บริหารของธุรกิจครอบครัว ไปนั่งเป็นคณะกรรมการกำหนดนโยบายของชาติ

6. ลดทอนอำนาจการตรวจสอบ จากสมการที่ว่า “การทุจริต = อำนาจรัฐ – การตรวจสอบ” การที่จะทำเงินให้ได้มากที่สุดจากธุรกิจการเมือง จึงจำเป็นต้องลดการตรวจสอบทั้งจากสำนักงาน ปปช. ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน และวุฒิสภา รวมไปถึงคุกคามสื่อมวลชนที่ทำหน้าที่เป็นกระจกเงาสะท้อนการทำงานของรัฐบาลให้ประชาชนได้รับรู้

7. มอบหน้าที่สำคัญให้พี่น้องตน ใช้ระบบอุปถัมภ์ ระบบพรรคพวก ไม่ว่าจะเป็น พี่ชาย น้องชาย น้องสาว น้องเขย รวมทั้งคนใกล้ชิดให้ได้รับตำแหน่งใหญ่โตคับบ้านเมือง ใครที่มีอุดมการณ์ความคิดต่าง ก็จะถูกลงโทษโดยการโยกย้ายไม่ได้รับการเลื่อนขั้นจนกระทั่งหมดอนาคตในระบบราชการไปเลย (You are either with us or against us!) การใช้สองมาตรฐาน (Double Standards) โดยใช้อำนาจทางกฎหมายจัดการอย่างเด็ดขาดกับฝ่ายตรงกันข้าม แต่กลับปิดหูปิดตาไม่ดำเนินการใด ๆ หากเป็นพรรคพวกของตน

8. มอมเมาผู้คนให้หลงประชานิยม ผ่านโครงการเอื้ออาทรต่าง ๆ โดยใช้เงินงบประมาณของรัฐบาล แต่ประชาสัมพันธ์ว่าเป็นความช่วยเหลือจากพรรคการเมือง เพื่อให้ชาวรากหญ้าซึ่งเป็นคนส่วนใหญ่ของประเทศรู้สึกเป็นหนี้บุญคุณกับนักการเมือง และต้องตอบแทนด้วยการลงคะแนนเลือกตั้ง

9. ปูพรมด้วยการตลาดและประชาสัมพันธ์ นโยบายด้านการตลาดที่ตื่นตาตื่นใจที่คัดลอกมาจากตำราของปรมาจารย์ด้านการตลาดและการจัดการ อาทิ ฟิลิป คอตเลอร์ และปีเตอร์ ดรักเกอร์ ถูกนำมาใช้เป็นนโยบายของพรรคการเมือง นอกจากนั้น การทุ่มงบประมาณแผ่นดินซึ่งเป็นเงินภาษีอากรของประชาชนนับหมื่นล้านบาท เพื่อประชาสัมพันธ์ผลงานของรัฐบาลที่ประสบความสำเร็จ ทั้งหมดก็เพื่อคะแนนเสียงของชาว “รากหญ้า” ซึ่งเป็นคนส่วนใหญ่ของประเทศ

10. หาเงินมาลงขันด้วยวิธีการแปลกใหม่ ใช้จ่ายเงินเยอะ ก็ต้องหาเงินมาเยอะ ทั้งเงินงบประมาณและเงินนอกงบประมาณโดยใช้นวัตกรรมทางการเงิน เช่น การแปรรูปรัฐวิสาหกิจ การแปลงสินทรัพย์เป็นทุน กองทุนวายุภักษ์ เงินให้กู้ยืมเงินผ่านธนาคารของรัฐ หวยบนดินและหวยออนไลน์ ฯลฯ

via ปอนด์ สงขลา