วันพฤหัสบดีที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

หลวงตาบัวรู้อนาคต เปรียบ “ทักษิณ” ยักษ์ผีทำลายชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ : ทักษิณมีจุดจบเหมือน “เทวทัต”

สำหรับเนื้อหาทั้งหมดของคลิปดังกล่าวที่ หลวงตามหาบัวกล่าวเตือนชาวจังหวัดอุดรธานี และคนไทยเกี่ยวกับ พ.ต.ท.ทักษิณ มีดังนี้

 ลูกศิษย์ : วันนี้ตามข่าวทั้งหนังสือพิมพ์ ทั้งทีวีเขาบอกว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะมาที่จังหวัดอุดรธานี เพื่อมาหาเสียงให้พรรคไทยรักไทย และตัวเองด้วย เพราะตัวเองเป็นหัวหน้าพรรค ประมาณบ่ายๆ ถึงเย็นนี้ล่ะครับ ตามข่าว
      
       หลวงตา : เมืองอุดรฯ นี่เป็นเมืองหลวงตาบัวอยู่นะ แล้วมันจะมาหาเสียงอะไร คนเขาเกลียดกันทั้งประเทศ ไอ้ ทักษิณนี่นะ มันก็เป็นลูกศิษย์หลวงตาบัว อุ้มขึ้นเพื่อให้มันอุ้มชาติบ้านเมือง ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ มันกลับไปเหยียบย่ำทำลายทั้งสามพระองค์เสียแหลกเหลว แล้วมันจะมาเรียกเมืองอุดรฯ ไปเหยียบช่วยอย่างนั้นเหรอ ว่ายังไง เขาเกลียดมันทั้งเมือง ขับไล่มันออก มันยังไม่ยอมออก มันไปหาสมัครอะไร มันหน้าด้านนะ ไอ้นี่นะ ทำไมมันหน้าอย่างนี้ล่ะ เอาคนหน้าด้านอย่างนี้เป็นนายกฯ มันเป็นมาจนแหลกเหลวหมดแล้ว 5 ปี แล้วมันจะมาเป็นเพื่ออะไรอีก จะยำให้แหลกเหลวหมดทั้งสามพระองค์ ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์เหรอ เราพูดอย่างนั้นแหละ เพราะกระเทือนใจมาก ตั้งแต่เป็นนายกฯ มานี้เราก็ว่านายกฯ นั้นเป็นยังงั้นอย่างนี้ ถัดๆ กันมาอย่างนี้แหละ เราก็ว่าคนนั้นเก่ง ทางเปรต ทางผี ทางยักษ์ ทางมารทุกอย่าง เอาคนอื่นมาเพื่อจะแก้อันนี้ ฟากอันนี้กลายเป็นมหายักษ์ขึ้นมาอีก โอยหมดท่าหลวงตาบัว
      
       เดี๋ยวมันจะพาพูดอะไร เมืองอุดรทราบกันหรือเปล่าว่าทักษิณ ชินวัตร มันเหลวแหลก แหวกแนว เขาขับไล่ออกจากนายกฯ แล้วมันเอาตาสมัครเป็นนายกฯ ขึ้นมาอีกนี้ มาเอาชื่อเสียงเมืองอุดรฯ เราอย่างนี้น่ะ ... ฟังสิเมืองอุดรเราเป็นยังไง เขาสาปแช่งกันทั้งบ้านทั้งเมือง เมืองอุดรฯ เราเป็นยังไง มีหูมีตามั้ง ฟังมั้ย พิจารณาสิ ทักษิณก็เป็นลูกศิษย์หลวงตาบัว จะเป็นลูกศิษย์ใคร เดี๋ยวจะมาเหยียบหัวหลวงตาบัว ทั้งเมืองอุดรฯ เราอีก คนทั้งเมืองจะว่าไง ฟังรึยังพวกนี้นะ จะมาหาเสียงอะไร เสียงยักษ์เสียงผีก็อยู่กับมันหมด เปรตผีกินบ้านกินเมืองกูอยู่กับมันหมด แล้วจะเรียกมันไปกินอะไรอีก มันกินจนไม่มีเหลือแล้วเนี่ย คือยังเหลือเมืองอุดร ที่ยังไม่หมด แล้วจะเอาเมืองอุดรไปกินอีกอย่างนั้นเหรอ แล้วก็อยากถามเมืองอุดรเราเป็นยังไงมั่งหวะ ทั่วประเทศไทยนั่นแหละ ทราบกันถ้วนหน้า นี่เป็นภาษาธรรม เราพูดอย่างตรงไปตรงมา
      
       เรายกขึ้นเพื่อจะอุ้มชาติบ้านเมือง เราไม่ลืมนะ เราช่วยยกเพราะเห็นแก่ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ กำลังจะจมลงในทะเลแห่งความล่มจม เราอยู่ไม่ได้ถึงขนาดล้อมคอกเราออกช่วยชาติบ้านเมือง ก็เห็นแก่คนนี่ เราดูคนผิดไป เราดูฐานะการเงินการทอง คนนี้เป็นคนมีเงินมีทองฐานะไม่ยากจน มั่งมีศรีสุข เรียกว่าประเทศไทยนี้คนนี้ก็คนหนึ่ง ตระกูลชินวัตรนี่เป็นตระกูลหนึ่งที่สกุลมั่งมีศรีสุข จะได้ช่วยชาติบ้านเมืองให้สงบร่มเย็นขึ้นไป ไม่เหมือนพวกโหด พวกหิว พวกกินบ้านกินเมือง กินมาตลอด กินตับกินปอดคนจนคนไม่เหลือ จะให้คนนี้เป็นผู้รื้อตับรื้อปอดประชาชนขึ้นมาเพราะมั่งมีสมบูรณ์แล้ว แต่ไม่กวนบ้านกวนเมือง กินตับกินปอดประชาชนแล้ว กลับมาเป็นมหายักษ์ให้เห็นต่อหน้าต่อตาเนี่ย นี่เขาขับไล่ออกจากนายกฯ มันไม่ยอมออก มันหน้าด้านที่สุด นี่จะมาประกาศหาเสียงที่เมืองอุดรอีก
      
       หลวงตาบัวก็อยู่เมืองอุดร แล้วหลวงตาบัวก็เป็นอาจารย์ของคนๆ นี้ด้วยนะ พิจารณาสิพี่น้องทั้งหลาย ฟังให้ดีนะ นี่ภาษาธรรม เราพูดอย่างตรงไปตรงมา จะเอาคนประเภทนี้หรือขึ้นครองบ้านครองเมือง ตับปอดประชาชนมันจะไม่มีเหลืออยู่แล้วเวลานี้ จะเอามากินอะไรอีก ... มันเลวขนาดนั้นนะ มันยังจะมาประกาศ หน้าด้านที่สุดเลย ตัวแสบๆ ตัวนี้หน้าด้านที่สุด ตั้งแต่เป็นนายกฯ เราก็ไม่เห็นนายกฯ ที่ปลิ้นปล้อนหลอกลวง ต้มตุ๋นทุกแบบทุกฉบับเหมือนนายกฯ คนนี้ มันเอามาจากเมืองผีหรือเมืองไหนก็ไม่รู้มาเป็นนายกฯ นี่นะ เราก็ไม่รู้เราก็นึกว่าเป็นคน เราก็ยกขึ้นให้เป็นนายกฯ เราไม่ทราบว่ามันเป็นยักษ์เป็นผีนี้ แล้วเป็นยังไงวันนี้จะมาพูดเมืองอุดรฯ ชาวอุดรฯ เราฟังหรือยัง แล้วทั่วประเทศไทยก็ทราบกันทั่วถึงกันแล้ว เมืองอุดรฯ เรายังไม่ทราบหรือ เป็นยังไงคนประเภทนี้นะ พิจารณาสิ มันสลดสังเวชนะ
      
       นี่ภาษาธรรม เราพูดอย่างตรงไปตรงมา ไม่เอนหน้าเอนหลังไปไหน ดีบอกว่าดี ชั่วบอกว่าชั่ว ทีแรกก็เข้าใจว่าเขาดี แล้วก็ยกเขาขึ้นเพื่อจะอุ้มชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์แล้วกลับทำชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ให้ล่มจมต่อหน้าต่อตาของคนทั้งชาตินี้เป็นยังไง พิจารณาสิ มันหน้าด้านขนาดไหนไอ้นี่ มันไม่ยอมออก เขาขับไล่มันออก มันก็ไม่ยอมออก แล้วยังมีไอ้สมัครอะไรอีก เอาเงินไปหาจ้างหาวาน เงินแต่ก่อนจะเป็นมงคล เงินของนายกฯ คนนี้เป็นฟืนเป็นไฟ เผาไหม้ทั่วประเทศ ชาติบ้านเมืองนะ เอาไปหย่อนให้คนไหน ไหนล่ะเป็นไฟทั้งหมด เงินเหล่านี้เป็นเงินเป็นไฟ เผาบ้านเผาเมืองนะ เผาชาติศาสนานะ เงินพูดตรงๆ เงินของนายกฯ คนนี้ไปแจกที่ไหน เอาไปเถอะ เผาทั้งนั้นล่ะ เผาทั้งนั้นล่ะ เงินเหล่านี้ไม่เป็นมงคล เงินเหล่านี้เป็นฟืนเป็นไฟ เผาชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ได้อย่างเต็มที่ทีเดียว ไม่สงสัยเลย
      
       เงินเราถือว่าเป็นมงคลมาตั้งแต่ดั้งเดิม แต่เงินปัจจุบันที่อยู่ใน ใครเป็นผู้ครอบครอง เป็นยักษ์เป็นผี เลยกลายเป็นไฟบรรลัยกัลป์หมด จะเผากันทั้งชาติบ้านเมืองให้แหลกเหลวไปหมดนี่ ฟังให้ดีเมืองอุดรฯ วันนี้เขาจะมาพูดที่นี่ หลวงตาพูดเสียก่อนเลยให้ท่านทั้งหลายได้ทราบว่าเป็นคนประเภทใด เขาสาปแช่งกันทั้งประเทศ เมืองอุดรเราเป็นยังไง พิจารณาสิ แล้วก็เมืองอุดรก็เป็นเมืองที่หลวงตาบัว ซึ่งเป็นอาจารย์ของนายทักษิณนี่อีกนะ อยู่ที่นี่ด้วย ได้ฟังอดไม่ได้วันนี้จึงต้องพูดออกมาให้ท่านทั้งหลายให้ได้ทราบทั่วหน้ากัน เราพูดอย่างตรงไปตรงมา ภาษาธรรมไม่เอนไม่เอียง ผิดบอกว่าผิด ถูกบอกว่าถูก ให้ฟังกันถ้วนหน้ากันนะวันนี้ แล้วชาวเมืองอุดรเราเป็นยังไง ได้ฟัง เห็นแก่ปากแก่ท้อง เห็นแก่ไอ้หลังลาย นั่นหละเหยื่อ ไอ้หลังลายเบ็ดมันอยู่ใน มันจะเกาะปากให้จมกันทั้งชาติ ไอ้หลังลายนี่นะที่เขาไปว่าอยู่เวลานี้ เหยื่อล่อปลาให้กินเบ็ด ...
  

-
 -
-
 

เปิดโปงขบวนการล้มเจ้า ของ นักโทษ ทักษิณ ชินวัตร

มุ่งสู่สาธารณรัฐ
    
       สำหรับขบวนการล้มเจ้า หรือขบวนการสาธารณรัฐ เริ่มปรากฎเป็นหลักฐานอ้างอิงชัดเจนมากขึ้นจากคำพูดและคำยืนยันจากปากของ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ปัจจุบันหวนกลับมาเป็นประธานพรรคเพื่อไทยและเกี่ยวข้องเป็นผู้ร่วมขบวนการที่ร่วมสร้างความปั่นป่วนนั่นเอง
    
       น่าตกใจก็คือก่อนหน้านั้นเขายืนยันถึง “ขบวนการล้มปืน ล้มทุน ล้มเจ้า” ว่ามีอยู่จริงและกำลังคุกคามขยายวงออกไปอย่างน่ากลัว เนื่องจากมีขั้นตอนและเป้าหมายสูงสุดถูกกำหนดเอาไว้อย่างชัดเจน เพื่อเปลี่ยนแปลงประเทศไทยไปสู่ “สาธารณรัฐ”
    
       โดยขบวนการดังกล่าวกำลังรุกคืบในหลายช่องทาง ทั้งในรั้วมหาวิทยาลัย สถาบันทางวิชาการ ในรัฐสภา แม้กระทั่งภายในรัฐบาลก็ไม่เว้น
    
       นอกจากนี้ยังใช้วิธีการเผยแพร่ความคิดผ่านทางสื่อบางกลุ่มไปยัง ประชาชน ซึ่งรวมไปถึงการอิงแอบไปกับการเคลื่อนไหวบนท้องถนนอย่างแนบเนียนอีกด้วย
    
       การโจมตีสถาบันพระมหากษัตริย์มีให้เห็นเด่นชัดเมื่อประมาณ 2-3 ปี ที่ผ่านมา และมีให้เห็นมากขึ้นในช่วง 3 รัฐบาลที่แล้ว คือรัฐบาล ทักษิณ ต่อเนื่องมาจนถึง สมัคร สุนทรเวช และ สมชาย วงศ์สวัสดิ์
    
       ยุคไทยรักไทยขบวนการใต้ดินเติบโต
    
       นับตั้งแต่พรรคไทยรักไทยเป็นรัฐบาล “ขบวนการล้มเจ้า” หรือ “ขบวนการหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ” รวมไปถึง “ขบวนการสาธารณรัฐ” เริ่มขยายเติบโตอย่างรวดเร็ว ซึ่งเป็นเรื่องที่ช่างบังเอิญเป็นอย่างยิ่ง
    
       ในระยะเริ่มแรกหลายคนอาจจะไม่ทันได้สังเกตว่าเกิดเว็บไซต์หมิ่นพระ บรมเดชานุภาพ ให้ร้าย บิดเบือนและทำลายสถาบันพระมหากษัตริย์เกิดขึ้นเป็นจำนวนมาก และมากขึ้นเรื่อยๆ แต่ที่มีการกล่าวขานกันมากก็คือเว็บไซต์ “มนุษยด็อทคอม” ที่มุ่งโจมตี บิดเบือนเกี่ยวกับสถาบันพระมหากษัตริย์ ซึ่งแม้ว่าในปัจจุบันจะถูกปิดไปแล้ว แต่กว่าจะดำเนินการได้สำเร็จก็ต้องใช้เวลาผ่านไปเนิ่นนานนับปี
    
       เปลี่ยนเพลงชาติ-เปลี่ยนบัตรประชาชน
       

       ในช่วงปลายเดือนพฤษภาคม 2548 รัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มีแนวคิดจะเปลี่ยนเพลงชาติไทยใหม่ โดยให้กระทรวงกลาโหมประสานงานกับระทรวงวัฒนธรรมในยุค อุไรวรรณ เทียนทอง มอบหมายให้บริษัทจี เอ็มเอ็มแกรมมี่ จำกัด (มหาชน) เป็นผู้เรียบเรียบเสียงประสานใหม่ และมีผลสรุปออกมาเป็นเพลงชาติไทย 6 รูปแบบใหม่ดังนี้ คือ1. แบบเป็นทางการ 2. แบบเข้มแข็ง แต่ไม่แข็งกร้าว 3. แบบเปิดในงานลีลาศ 4. แบบแดนซ์รุ่นใหม่เอาใจวัยรุ่น 5. เวอร์ชันแบบเอาใจเด็กเล็ก 6. เวอร์ชันเอาใจผู้สูงอายุ มีเครื่องมโหรีช่วยบรรเลง แต่หลังจากเรื่องนี้แพร่กระจายออกไปก็มีเสียงคัดค้านและตำหนิรัฐบาลอย่าง รุนแรงว่าเป็นการทำลายเอกลักษ์และอัตลักษณ์ของวัฒนธรรมที่มีมาอย่างยาวนานจน มีความโดดเด่นเฉพาะตัว เรื่องก็เงียบไป
    
       นอกจากนี้ยังมีการเปลี่ยนแปลงบัตรประชาชนขึ้นใหม่ โดยมีความพยายามยกเลิกตราครุฑซึ่งเป็นสัญญลักษณ์ของพระมหากษัตริย์ บนบัตรประชาชนแบบใหม่ที่เรียกว่าบัตรสมาร์ทการ์ด อ้างว่าเพื่อสะดวกในการเข้าถึงข้อมูล ป้องกันการปลอมแปลง หรือเพื่อความมั่นคง สารพัด
    
       ขณะเดียวกันรัฐบาลในยุคนั้นยังได้ออกระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 13 มกราคม 2547 ว่าด้วยการจ้างพนักงานของรัฐ โดยให้มีผลบังคับตั้งแต่ปีงบประมาณ 2548 เป็นต้นมา โดยอ้างว่าการเปลี่ยนฐานะดังกล่าวเพื่อให้เกิดความหลากหลาย และความเหมาะสมในการใช้กำลังคนภาครัฐให้เกิดความเหมาะสมและสอดคล้องกับการ บริหารจัดการภาครัฐแนวใหม่
    
       เพราะหากพิจารณาคำนิยามของ “ข้าราชการ” ตั้งแต่สมัยโบราณมีความหมายถึงการปฏิบัติราชการในลักษณะรับใช้พระเจ้าแผ่นดินหรือพระมหากษัตริย์
    
       ตั้งสมเด็จพระสังฆราชซ้อน
    
       ต่อมายังได้ลงนามเมื่อวันที่ 13 มกราคม 2547 แต่งตั้งคณะผู้ปฏิบัติหน้าที่แทนสมเด็จพระสังฆราช มี สมเด็จพระพุฒาจารย์(เกี่ยว อุปเสโณ) เจ้าอาวาสวัดสระเกศ เป็นประธาน อ้างว่า สมเด็จพระญาณสังวร สังคปรินายก สมเด็จพระสังฆราชองค์ปัจจุบันประชวร มิอาจปฏิบัติพระภารกิจได้
    
       กรณีที่เกิดขึ้นได้รับการวิพากษ์วิจารณ์อย่างมากว่าเป็นการละเมิดพระ ราชอำนาจของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทั้งที่หากพิจารณาตามโบราณราชประเพณีแล้วพระมหากษัตริย์ทรงแต่งตั้งสมเด็จ พระสังฆราช หรืออย่างน้อยก็ต้องขอพระราชทานกราบทูลเพื่อให้ทรงวินิจฉัยเสียก่อน
    
       “ไทยคู่ฟ้า”เทียบชั้นประมุข
    
       อาจเป็นเพราะเห็นสหรัฐมีเครื่องบินประจำตำแหน่งที่เรียกว่า “แอร์ฟอร์ซวัน” หรือเปล่าไม่ทราบ หรืออาจเป็นเพราะคิดว่าตัวเองมีอำนาจอย่างเบ็ดเสร็จในประเทศนี้อยู่ในกำมือ จึงมีความทะเยอทะยานต้องการเสริมสร้างบารมีให้สูงเด่นเกินระดับผู้นำธรรมดา แม้ว่าเมื่อหันไปดูสหรัฐอเมริกาที่ใช้เครื่องบินดังกล่าวเป็นพาหนะเป็นระดับ ประมุขของชาตินั่นคือประธานาธิบดี และเป็นประเทศมหาอำนาจยักษ์ใหญ่ของโลก และเพื่อความปลอดภัยของผู้นำ
    
       ขณะที่ไทยยังถือว่าเป็นประเทศกำลังพัฒนา และในอดีตไม่เคยมีนายกรัฐมนตรีคนใดมีความคิดที่จะมียานพาหนะเป็นเครื่องบิน ประจำตำแหน่งเลย
    
       สำหรับการซื้อเครื่องบิน “ไทยคู่ฟ้า” หรือ แอร์บัส เอ 319 ACJ มาใช้ประจำตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเป็นครั้งแรกเมื่อปี 2547 โดยใช้งบประมาณของรัฐ เฉพาะค่าเครื่องบินประมาณ 2 พันล้านบาท ยังไม่นับค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาอีกเดือนละไม่ต่ำกว่า 55 ล้านบาท แม้ว่าจะจอดอยู่เฉยๆไม่ได้ใช้งานก็ตาม
    
       แต่ที่น่าสนใจก็คือความเป็นมาของเครื่องบินลำนี้ ที่นำมาจากการนำเฮลิคอปเตอร์พระที่นั่งไปแลกมาพร้อมกับเพิ่มเงินอีก 30 ล้านเหรียญกว่าจะได้มา ซึ่งแทนที่จะนำไปซื้อเครื่องบินพระที่นั่งเพราะในเวลานั้นมีสภาพเก่าใช้งาน มานานกว่า 20 ปี แต่รัฐบาลยุคนั้นกลับนำไปซื้อเครื่องบินประจำตำแหน่งนายกฯแทน
    
       ทำพิธีกรรมศักดิ์สิทธิ์ตีตนเสมอเจ้า
    
       การสร้างกระแสเพื่อเสริมสร้างบารมี เพื่อให้เกิดความศรัทธาจากประชาชนยังดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง และนับวันจะยิ่งเข้มข้นและพิสดารพันลึกมากขึ้นเรื่อยๆ สิ่งที่เครือข่ายระบอบทักษิณมักนำมาใช้ก็คือเรื่อง “พิธีกรรม” บางครั้งถึงกับใช้วิธีการแบบ “ระลึกชาติ” แบบหลุดโลกพิสดาร เพื่อรองรับและโน้มน้าวความเชื่อของมวลชนในระดับล่างที่มีความคุ้นเคยกับ เรื่องเหล่านี้ตามวิถีชีวิตดั้งเดิมแบบสืบทอดกันมาแบบรุ่นต่อรุ่น เป็นการตอกย้ำให้เห็นว่า ผู้นำ “หน้าเหลี่ยม” ก็มีที่มา “ไม่ธรรมดา” เหมือนกัน
    
       ที่ผ่านมาเคยมีอุตริอุปโหลกให้ ทักษิณ ชินวัตร เป็น “พระเจ้าตากสิน” กลับชาติมาเกิด เพื่อมากอบกู้ชาติก้มี และบังเอิญว่าในภาษาอังกฤษก็ใช้คำว่า TAKSIN ซึ่งชื่อไปพ้องกันพอดี
    
       นอกจากนี้ยังมีภาพวาด “พญากือนา” หรือ “พระเจ้ากือนาธรรมิกราช” ที่ตามประวัติระบุว่าเคยเป็นกษัตริย์พระองค์ที่ 6 แห่งราชวงศ์เม็งราย ปกครองอาณาจักรล้านนา สันนิษฐานว่าทรงครองราชย์ในราวปี พ.ศ.1898-1928 และกษัตริย์พระองค์นี้ยังทรงอัญเชิญพระบรมธาตุของพระพุทธเจ้าไปประดิษฐานบน ดอยสุเทพ สร้างคุณูปการมากมาย
    
       แต่ที่น่าตกตะลึงพรึงเพริดไปมากกว่านั้นก็คือมีความพยายามจงใจวาดพระพักตร์ของพญากือนาในยุคหลายร้อยปีก่อนให้มี “ใบหน้าเหลี่ยมๆ” เหมือนกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ไม่มีผิด
    
       นอกจากนี้ยังมีการหล่อรูปปั้นพระพุทธรูป “ชินวัตรมุณี” ในวัดแห่งหนึ่งในจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งก็อย่าได้แปลกใจที่เป็นพระพุทธรูปใบหน้าปางสี่เหลี่ยมเช่นเดียวกัน
    
       อุปโหลก“พระเจ้ามูลเมือง-เจ้าษิณ”
    
       ยังมีพิธีกรรมเมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2552 ที่วัดอุโมงค์ ต.สุเทพ อ.เมือง จ.เชียงใหม่คราวนี้ พล.อ.ชัยสิทธิ์ ชินวัตร อดีตผู้บัญชาการทหารสูงสุดญาติผู้พี่ถึงกับลงทุนไปนั่งเป็นประธานในพิธีด้วย ตัวเอง พร้อมด้วยคนกลุ่มหนึ่งร่วมกันทำพิธีทำบุญสืบชะตานัยว่าเป็นการสะเดาะเคราะห์ ให้กับ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่ตามข้อมูลของคนทรงยืนยันว่ากำลังถูกเจ้ากรรมนายเวรตามเอาชีวิต
    
       ในพิธีกรรมดังกล่าวมีผู้หญิงสูงวัยคนหนึ่งในชุดนุ่งขาวห่มขาวมาเข้าทรงแล้วอ้าง “ข้อมูลใหม่” สมัยเมื่อชาติปางก่อน พ.ต.ท.ทักษิณ เคยเป็นกษัตริย์ปกครองหัวเมืองล้านนา ในอดีตมีชื่อว่า “พระเจ้ามูลเมือง” หรือ “เจ้าษิณ” และเชื่อว่าสาเหตุที่ต้องประสบเคราะห์กรรมในขณะนี้ เป็นเพราะกรรมในอดีตชาติตามมารังควานจึงต้องมีการปัดเป่าให้พ้นไป
    
       แต่ที่เหิมเกริมไม่รู้จักที่ต่ำที่สูงกันไปกว่านั้นก็คือในการทำพิธี ดังกล่าวมีการเขียนชื่อบุคคลระดับสูงที่ชาวบ้านทั้งประเทศเคารพนับถือ และบุคคลสำคัญคนอื่นๆ หลายคนที่ถูกระบุว่าเป็นศัตรู เช่น พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ ธานินทร์ กรัยวิเชียร องคมนตรี อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะนายกรัฐมนตรี รวมไปถึงคนอื่นๆที่อยู่ฝ่ายตรงข้ามและคิดว่าเป็นศัตรูกับตนเองอีกหลายคนรวม อยู่ด้วย
    
       พิธีกรรมดังกล่าวทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์เป็นอันมากว่าเป็น เสมือนจงใจสร้างภาพหรือยกฐานะของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ให้เป็นลักษณะของสมมุติเทพ ไม่ใช่บุคคลธรรมดาสามัญทั่วไป
    
       แม้ว่าพิธีกรรมแบบนี้อาจจะสร้างความตลกขบขันให้คนทั่วไปที่ไม่เชื่อ ถือในเรื่องไสยศาสตร์ดังกล่าวเห็นว่าเป็นเรื่องงมงาย แต่สำหรับวิถีชีวิตในชนบทก็มีจำนวนไม่น้อยที่ยังยึดมั่นอย่างเคร่งครัด ประกอบกับมีขบวนการ “ปล่อยข่าว” อย่างเป็นขั้นเป็นตอนมันก็ยิ่งเป็นการตอกย้ำความเชื่อมากขึ้นไปอีก
    
       นั่งบนพรมแดงเป็นประธานในวัดพระแก้ว
    
       ปรากฎการณ์ที่สร้างความสงสัย สร้างความปวดร้าวและความไม่พอใจระคนกันมีเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ว่าสิ่งที่ ทักษิณ ชินวัตร และเครือข่ายได้ดำเนินการมาโดยตลอดนั้นมีเป้าหมายสูงสุดคืออะไรกันแน่
    
       สิ่งที่สะกิดใจและเริ่มเกิดความสงสัยผุดขึ้นในใจเป็นทวีคูณเมื่อได้ เห็นภาพที่ปรากฎขึ้นในวันที่ 10 เมษายน 2548 ของ ทักษิณ ในฐานะนายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธี “ศาสนสัมพันธ์สมานฉันท์แห่งชาติ” หรือที่เรียกกันว่า “พิธีทำบุญประเทศ” ภายในอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม หรือ “วัดพระแก้ว” ซึ่งเป็นพระอารามหลวง ตั้งอยู่ในเขตพระราชฐานในพระบรมมหาราชวัง
    
       พิธีดังกล่าวมี ทักษิณ นั่งอยู่บน “พรมแดง” ในตำแหน่งที่พระเจ้าอยู่หัวและพระบรมวงศ์ชั้นสูงทรงประทับ โดยมีบุคคลในครอบครัว และคณะรัฐมนตรี ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่เข้าร่วม ซึ่งจากเหตุการณ์ดังกล่าวทำให้ ศ.ระพี สาคริก ซึ่งเป็นปูชนียบุคคล และ พล.อ.พิจิตร กุลวณิชย์ องคมนตรี ทนไม่ได้ต้องออกมาท้วงติงในทำนองว่าเป็นการเหิมเกริมตีเสมอเจ้า
    
       ทำลาย พล.อ.เปรมกระทบชิ่งสถาบัน
    
       ปฏิเสธไม่ได้ว่าระบอบทักษิณ ได้ใช้มวลชนเสื้อแดง รวมทั้งเครือข่ายใต้ดินแทบทั้งหมดมุ่งเน้นโจมตีสถาบันองคมนตรี โดยเฉพาะ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ แต่หากพิจารณาให้ดีก็หมายถึงต้องการให้กระทบไปถึงสถาบันพระมหากษัตริย์นั่น เอง
    
       เป็นการรับรู้กันอยู่แล้วว่า องคมนตรีเปรียบเหมือนที่ปรึกษาของพระมหากษัตริย์ ขณะที่ พล.อ.เปรม ก็เปรียบได้กับประธานที่ปรึกษา มีที่มาจากการโปรดเกล้าฯแต่งตั้งและให้พ้นจากตำแหน่งเป็นไปตามพระราช อัธยาศัย ดังนั้นการก้าวล่วงโจมตีองคมนตรี หรือประธานองคมนตรี น่าจะมีเจตนาที่แท้จริงสูงไปกว่านั้นแน่นอน
    
       หากเปรียบสถาบันองคมนตรีเป็นขาเก้าอี้ที่ค้ำยันรองรับสถาบันพระมหา กษัตริย์ ดังนั้นเมื่อจะทำลายให้ได้ผลสำเร็จก็ต้องเลื่อยขาเก้าอี้ให้ขาดไปก่อน อีกทั้งยังสามารถอำพรางมวลชนที่บริสุทธิ์ให้หลงทาง เข้าร่วมขบวนการโดยไม่รู้ตัว โดยอ้างว่าการขับไล่ พล.อ.เปรมก็คือการปกป้องสถาบัน
    
       อย่างไรก็ดีสิ่งที่ต้องควรรู้ก็คือการเรียกร้องให้ พล.อ.เปรม และองคมนตรีคนอื่นๆลาออก เช่น พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ พล.อ.พิจิตร กุลลวณิชย์ เป็นต้น ถือว่าเป็นการก้าวล่วง ทำให้ระคายเคือง เพราะการแต่งตั้งหรือให้พ้นจากตำแหน่ง ต้องมีการโปรดเกล้าฯตามพระราชอัธยาศัย ไม่ใช่ว่าใครอยากจะเป็นก็เป็นได้ ดังนั้นบุคคลที่รับตำแหน่งดังกล่าวนอกจากต้องความรู้ความสามารถ มีประสบการณ์สูงแล้วยังต้องได้รับความไว้วางพระราชหฤทัยอีกด้วย
    
       ใช้สื่อเครื่องมือดิสเครดิต-ทำลาย
    
       ในยุคที่ระบอบทักษิณ ยังครองอำนาจรัฐ สื่อถูกนำมาใช้เป็นเครื่องมืออย่างเป็นระบบ ทั้งในรูปแบบการโฆษณาชวนเชื่อ และที่สำคัญเพื่อโจมตีสถาบันเบื้องสูงซึ่งกระทำอย่างเป็นระบบมีทั้งประเภท สื่อหลัก สื่อรอง สื่อใต้ดิน อย่างเช่น ฟรีทีวี วิทยุ หนังสือพิมพ์ นิตยสาร เว็บไซต์ ใบปลิว รวมไปถึงการปล่อยข่าวลือตามแหล่งชุมชน หรือบนรถแท็กซี่ เป็นต้น
    
       ปรากฏการณ์ที่สร้างความแปลกประหลาดใจคนไทยเป็นอย่างมากกับการนำเสนอ รายงานของสถานีโทรทัศน์เอ็นบีที(ภายใต้การกำกับของ จักรภพ เพ็ญแข อดีตรัฐมนตรีสำนักนายกฯ) นำเสนอรายงานเกี่ยวกับการโค่นล้มราชวงศ์เนปาล ตามมาด้วยสารคดีเกี่ยวกับการปฏิวัติล้มล้างราชวงศ์ในสาธารณรัฐฝรั่งเศส รวมไปถึงการโค่นล้มระบบกษัตริย์ในอังกฤษโดย นายพลครอมเวล
    
       ปรากฎการณ์ที่เกิดขึ้นหากจะบอกว่าเป็นการรายงานสถานการณ์ตามข้อเท็จ จริงก็อาจจะกล่าวได้ ไม่ผิด แต่ผิดปกติตรงที่มีการรายงานในลักษณะพิเศษและเจาะจงจนผิดสังเกต เพราะมีความเคลื่อนไหวที่ “บังเอิญ” ต่อเนื่องกันต่อๆมา
    
       มติชน สุดสัปดาห์ยก “Case study”
    
       มติชนสุดสัปดาห์ฉบับวันที่ 16 มิถุนายน 2549 หยิบยกเอากรณีเนปาลมาเป็นกรณีศึกษา (Case study) ไม่น่าแปลกใจหากเป็นการนำเสนอความเคลื่อนไหวทั่วไป แต่นี่เป็นรายงาน “พิเศษ” และพิเศษไปกว่าอีกเมื่อนักหนังสือพิมพ์อาวุโสอย่าง เสถียร จันทิมาธร ที่เคยควบคุมกองบรรณาธิการหนังสือพิมพ์ฉบับดังกล่าวยังเป็นอดีตฝ่ายซ้ายเคย เคลื่อนไหวกับพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย(พคท.) เคยมีชื่อจัดตั้งว่า “สหายดวง”
    
       สหายดวง เป็นคอลัมนิสต์คนเดียวกันนี่แหละที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เคยออกปากชื่นชมออกนอกหน้าว่ามีมุมมองเกี่ยวกับสถานการณ์อย่างเฉียบคม โดยพาะชื่นชอบงานเขียนในคอลัมน์ในหน้า 3 ของหนังสือพิมพ์มติชนรายวันระหว่างแถลงข่าวประจำสัปดาห์ เมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม 2549 มาแล้ว
    
       สื่อแดง-สื่อเทียมโหมโรงจาบจ้วง
    
       นอกจากจะมีสื่อกระแสหลักทำหน้าที่โฆษณาชวนเชื่อ สร้างความนิยมให้กับระบอบทักษิณแล้ว บางโอกาสยังฉวยจังหวะคอยเป็นกระบอกเสียงหรือเปิดโอกาสให้ ทักษิณ ชินวัตร ชี้แจงกล่าวหาฝ่ายตรงข้ามอย่างผิดปกติ ดังเกิดขึ้นกับกรณีของ จอม เพชรประดับ ที่ใช้คลื่นวิทยุอสมท.สัมภาษณ์สด เปิดโอกาสให้แก้ตัว(อาจเรียกว่าชี้แจง) รวมทั้งโจมตีกระบวนการยุติธรรมของไทย
    
       ระบอบทักษิณ รวมไปถึงขบวนการสาธารณรัฐเหล่านี้ยังได้ผลิตสื่อรอง หรือสื่อเฉพาะกิจหรือที่เรียกกันว่า “สื่อเทียม” ออกมามากมายเพื่อระดมโหมโจมตีสถาบันเบื้องสูงอย่างต่อเนื่อง เท่าที่เห็นในสารบบตอนนี้ ซึ่งมีทั้งโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม เช่น สถานีประชาธิปไตย(ดี-สเตชั่น) ก่อตั้งโดย อดิศร เพียงเกษ สถานีประชาชน (พีเพิลชาแนล) เป็นต้น
    
       ส่วนสื่อสิ่งพิมพ์ ก็มี ไทย เรดนิวส์ รายสัปดาห์ แนววิเคราะห์การเมืองไทย และ Red News หนังสือพิมพ์โลกวันนี้รายวัน เป็นต้น
    
       วิทยุชุมชน เช่น วิทยุชุมชนอุดรคนรู้ใจ คลื่นเอฟเอม 87.75 วิทยุชมชนคนรักไทย คลื่นเอฟเอ็ม 95.25 วิทยุชุมชนเชียงใหม่ คลื่นเอฟเอ็ม 92.50 วิทยุชุมชนลำปางคลื่นเอฟเอ็ม 90.25 วิทยุชุมชนเชียงราย คลื่น 104 วิทยุชุมชนริมปิง วิทยุชุมชนลำพูน วิทยุชุมชนอุบล วิทยุชุมชนคนรักแท็กซี่ คลื่น 92.75 ฯลฯ
    
       นอกจากนี้ เครือข่ายระบอบทักษิณ ได้ใช้ยุทธวิธีโลกล้อมประเทศ โจมตีฝ่ายตรงข้ามในประเทศไทย ซึ่งหมายรวมไปถึงสถาบันพระมหากษัตริย์ โดยว่าจ้างบริษัทลอบบี้ยิสต์ต่างประเทศโน้มน้าวสื่อชั้นนำ รวมไปถึงการจ้างบริษัทลอบบี้ยิสต์ที่มีอิทธิพลและเข้าถึงสมาชิกรัฐสภาของ สหรัฐ ซึ่งบริษัทดังกล่าวก็คือ บริษัทบาร์เบอร์ กริฟฟิธ แอนด์ โรเจอร์ส จำกัด และบริษัท เบเกอร์ บ๊อทส์ จำกัด (BAKER BOTTS L.L.P.) ของนายเจมส์ เอ. เบเกอร์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศของสหรัฐ ที่มีความใกล้ชิดกับนายจอร์จ บุช อดีตประธานาธิบดีสหรัฐ โดยบริษัทหลังได้ว่าจ้างเมื่อวันที่ 11 ธันวาคม 2549 รวมทั้ง บริษัท เอลเดอร์แมน ในกรุงวอชิงตัน และฮ่องกง เป็นต้น
    
       ใช้ “วัดธรรมกาย” ขยายมวลชน
    
       มวลชนถือว่าเป็นเครื่องมือสำคัญสำหรับเป้าหมายทางการเมืองในอนาคต ข้างหน้า แต่ปัญหาก็คือจะหามวลชนที่มีระเบียบวินัย มีการจัดตั้งที่ดี และที่สำคัญต้องมีจำนวนมากพอ ขณะที่อีกฝ่ายก็ต้องการอำนาจจากการเมืองในการปกป้องหรือช่วย “เคลียร์” บางเรื่องให้ผ่านพ้นไป อีกทั้งทำให้การขยายเครือข่าย “ธรรมกาย” ออกไปได้กว้างขวางและสะดวกทำให้ทั้งสองฝ่ายสมประโยชน์ซึ่งกันและกันเป็นอย่างดี
    
       ขณะเดียวกันอีกด้านหนึ่งสำหรับธรรมกาย ที่ต้องมาอิงแอบอยู่กับ ระบอบทักษิณ ก็น่าจะมาจากเหตุผลต้องการพึ่งพาอำนาจรัฐในการขยายอาณาจักรความเชื่อแบบ “ลัทธิใหม่” ออกไปแบบไม่มีอุปสรรคขัดขวาง ดังจะเห็นได้จากกรณีสั่งให้ถอนฟ้องคดียักยอกทรัพย์ที่ ธรรมชโย อดีตเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ถูกฟ้องเป็นจำเลย อย่างพิลึกพิลั่นคาใจคนทั้งประเทศมาแล้ว
    
       ลัทธิธรรมกายที่เน้นในเรื่อง “นิมิต” ซึ่งนิมิตนี้จะ กลม ใส สว่าง รวมไปถึงการอวดอ้างว่านิมิตดังกล่าวเป็นปากทางก่อนเข้าสู่นิพพาน อีกทั้งสอนให้เชื่อว่า นิพพานคือ “อัตตา” ซึ่งยังมีข้อถกเถียงกันว่าเป็นการบิดเบือนหลักธรรมคำสอนของพระพุทธองค์ และทุกคนสามารถเข้าถึงนิพพานได้หากปฏิบัติตามแนวทางธรรมกายรูปแบบที่กำหนด เอาไว้
    
       นอกจากนี้ยังอวดอุตริในเรื่องพิธีกรรมแปลกประหลาด สร้างเรื่องความเป็นคน “พิเศษ” ของ “แม่ชีจันทร์ ขนนกยูง” ผู้ให้กำเนิดวัดธรรมกาย เป็นผู้อุปถัมภ์ พระธรรมชโย และเป็นผู้ชี้ทางให้บรรลุในวิชาธรรมกาย ซึ่งความพิเศษที่ว่านั้นก็คือ ทั้งสองคนดังกล่าวจะทำหน้าที่กลั่นอาหารทิพย์ที่นำมาจากข้าวปลาอาหารที่ชาว บ้านนำมาถวาย ซึ่งอาหารทิพย์ที่ว่านั้น ทั้งแม่ชีจันทร์กับ ธรรมชโย จะเป็นผู้นำไปถวายพระพุทธเจ้าเสวยในทุกข์วันอาทิตย์ต้นเดือน
    
       แค่นี้ก็ถือว่าแหกตาหลุดโลกแล้ว เพราะในบรรดาชาวพุทธทั้งหลายที่มีอยู่หลายล้านคนทั่วโลก ทำไมมีเพียงสองคนนี้เท่านั้นที่มีสิทธิพิเศษได้เข้าเฝ้าฯในแดนนิพพานเท่า นั้น
    
       นอกจากนี้ยังอวดอุติสร้างกระแสอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์อื่นๆ เช่น บอกว่าในช่วงสงครามโลกครั้งที่สองในขณะที่สหรัฐอเมริกาได้ทิ้งระเบิดลงมาตอน แรกมีเป้าหมายที่ประเทศไทย เนื่องจากมีกองทหารญี่ปุ่นอยู่เป็นจำนวนมาก แต่ด้วยการบำเพ็ญภาวนาของ แม่ชีจันทร์ เป็นเวลาถึง 7 วัน 7 คืน มีตบะแก่กล้า ก็สามารถสร้างกุศล ปัดระเบิดนิวเคลียร์ไปตกที่เมืองฮิโรชิม่าและนางาซากิได้ ทำให้คนไทยรอดพ้นอันตราย
    
       แต่ขณะที่สร้างกระแสในเรื่องนี้เพื่อให้สาวกทึ่งและนับถือในความเก่งกาจ เพื่อสร้าง “อุปทานหมู่” แต่คงลืมไปว่าการที่ทำเช่นนั้นกลับไปสร้างความเดือดร้อนอย่างแสนสาหัสให้กับ ชาวญี่ปุ่นอีกนับแสนคนที่เสียชีวิตและทนทุกข์ทรมาณจากกัมมันตภาพรังสี มีบาดแผลทางกายและใจมาจนถึงทุกวันนี้ ไม่รู้มีบาปกรรมตามมาอีกเท่าไหร่ อย่างไรก็ดียังเป็นความโชคดีที่เรื่องนี้ยังไม่แพร่ไปถึงประเทศญี่ปุ่น หรือคนญี่ปุ่นฟังภาษาไทยไม่รู้เรื่อง ไม่เช่นนั้นก็มีสิทธิ์จะโดนยำเละคา “จานบิน” ไปแล้วก็เป็นได้
    
       ที่ผ่านมาวัดธรรมกายสามารถสร้างเครือข่าย สร้างมวลชน ซึ่งอาจเรียกได้ว่าเป็น “สาวก” ได้เป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะในสมัยที่ระบอบทักษิณเรืองอำนาจ เป็นลักษณะจัดตั้งแบบลูกโซ่ ซึ่งรวมไปถึงการให้เงินสนับสนุนกับวัดในต่างจังหวัด หรือโรงเรียนทั่วประเทศ ที่มักมีกิจกรรมในเรื่องพระพุทธศาสนาอยู่เสมอ
    
       การขยายเครือข่ายออกไปอย่างกว้างขวางและรวดเร็วดังกล่าวทำให้ถูกมอง ว่าเป้าหมายแท้จริงของวัดธรรมกายคงไม่ใช่แค่เรื่องกิจกรรมในทางศาสนาโดยทั่ว ไปเท่านั้น แต่น่าจะหมายถึงการตั้งนิกายใหม่ และรวมไปถึงการมีอิทธิพลไปครอบงำวงการสงฆ์ไทยทั่วประเทศ ซึ่งครั้งหนึ่งถึงขั้นเหิมเกริมท้าชนกับมหาเถรสมาคม ขอกำหนดทิศทางของคณะสงฆ์ของตัวเอง
    
       เมื่อมีเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่ในวันหน้า ก็มีทางเดียวที่จะสามารถบรรลุไปถึงได้ก็ต้องประสานเคียงคู่ไปกับระบอบทักษิณเท่านั้น
    
       ดังนั้นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นดังกล่าวมาทั้งหมด มันช่างบังเอิญและสอดคล้องต้องกัน เพราะมีการกระทำอย่างเป็นขั้นเป็นตอนและเป็นขบวนการ และเมื่อมาถึงวันนี้เมื่อ ทักษิณ ชินวัตร ได้ให้สัมภาษณ์กับ “เดอะไทมส์” ออนไลน์ ที่จาบจ้วงสถาบันพระมหากษัตริย์อย่างตรงไปตรงมาก็เผ็นจิ๊กซอร์ที่เชื่อมถึง กันพอดี จนกลายเป็น “ใบเสร็จ” ที่เป็นหลักฐานมัดจนดิ้นไม่หลุด !!



-


-

-



ความผิดทักษิณ ชินวัตร รวมความชั่วของทักษิณ

1. แก้ พรบ.สรรพสามิตโทรคมนาคม ให้เสียภาษีน้อยลง ได้ผลประโยชน์ 8,000 ล้าน                                                          
                                                                                                                       
2. ลดสัมปทาน itv ได้ผลประโยชน์ 20,000 ล้าน แถมได้สถานีโทรทัศน์ที่เคยมีอุดมการณ์ เปลี่ยนมาทำลายวัฒนธรรม โดยการเอาหนังเกาหลีมาฉาย และปิดสื่อ    
ความไม่ดี สร้างภาพดีๆให้ตัวเอง (กลุ่มชินคอร์ป ถือหุ้น itv 53%)                                                                        
                                                                                                                       
3. ตั้ง ชัยสิทธิ์ ชินวัตร เป็น ผบ.ทบ. ก็ได้พี่ชายตนเองคุมทหาร                                                                          
                                                                                                                       
4. ตั้ง เพรียวพันธ์ ดามาพงษ์ เป็น รอง ผบ.ตร. ก็ได้พี่เขยตนเองคุมตำรวจ                                                                
                                                                                                                       
5. ตั้ง พล.ต.อ.วาสนา เพิ่มลาภ เป็น ประธาน กกต ก็ได้ตำรวจพวกพ้องตัวเองคุม กกต.                                                      
                                                                                                                       
6. ตั้ง พล.ต.ต.สุรสิทธิ์ สังขพงศ์ เป็น ผอ.กองสลาก ก็ได้ตำรวจพวกพ้องตัวเองคุม กองสลาก                                                  
                                                                                                                       
7. ตั้ง พล.อ.อ.คงศักดิ์ วัณทนา เป็น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ก็ได้เพื่อนคุณหญิงอ้อ...มาคุมทุกเหล่า                                      
                                                                                                                       
8. กล่าวคําพูดท้าทายพวกก่อการร้ายในภาคใต้ ว่าเป็นแค่โจรกระจอกอย่าไปใส่ใจทํา ให้เกิดความรุนแรงคนตายมากมายและยังหลุดปากด่าทหารว่าสมควรตาย      
                                                                                                                       
9. ปล่อยเงินกู้ให้พม่า 4,000ล้าน เพื่อนำมาเช่าช่องสัญญาณ IP Star ของตัวเอง ถึงกำหนดแล้วพม่ายังไม่ใช้หนี้เลย                                  
                                                                                                                       
10. เจรจาเซ็น FTA กับจีน ให้จีนนำเข้า หอม กระเทียม เข้ามาไม่เสียภาษี เกษตรกรที่ปลูกหอมปลูกกระเทียมทางเหนือก็ตายสิครับ ส่วนไทยได้ขายธุรกิจช่อง    
สัญญาณดาว เทียม IP Star                                                                                                    
                                                                                                                       
11. เจรจาเซ็น FTA กับ ออสเตเรีย ให้นำเข้า นม ไวน์ เข้ามาไม่เสียภาษี ทำลายเหล้าไวน์พื้นบ้านOTOP ทำลายนมพระราชดำริ ส่วนไทยได้ขายธุรกิจช่องสัญญาณ  
IP Star                                                                                                                  
                                                                                                                       
12. ในเดือนพฤศจิกายน 2546 คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) มีมติส่งเสริมการลงทุนโครงการดาวเทียมไอพีสตาร์ของชินแซทเทิลไลท์ โดยให้การยก  
เว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลเฉพาะรายได้ที่ได้รับจากต่างประเทศ ทั้ง ๆ ที่เป็นกิจการที่ลงทุนเดิมอยู่แล้ว ไม่รู้ไปยกเว้นภาษีทำไม บริษัทจึงได้รับการยกเว้นภาษีเงินได้อีก  
16,459 ล้านบาทต่อปี                                                                                                        
                                                                                                                       
13. แปรรูปขายหุ้น ปตท วันแรก เปิดขายหุ้นหมดภายใน 1 นาที 17 วินาที ตระกูลใครละที่ได้ซื้อหุ้นไป หลังจากแปรรูป น้ำมันก็แพงขึ้นทุกวัน ให้กองทุนน้ำมันของคน  
ไทยขาดทุนกว่า 70,000 ล้านบาท แต่ ปตท ได้กำไรปี 2548 จำนวน 160,000 ล้านบาท แล้วกำไรแทนที่จะเป็นของรัฐ ก็กลายเป็นกำไรของตระกูลพวกถือหุ้น    
                                                                                                                       
14. ซุกหุ้นภาคแรก ให้เมียตัวเองขึ้นศาลรับผิด ซุกหุ้นภาค2 ให้ลูกชาย ตัวเองขึ้นศาลรับผิด ไหนบอกว่ารักครอบครัวไง                                    
                                                                                                                       
15. บริษัทของลูกท่านได้เงินกู้ 5,000 ล้าน จาก ICT ดอกเบี้ย0% ไม่ กำหนดเวลาชำระคืน แถมได้รับการเว้นภาษีจากบีโอไออีก ทำสวนสนุกได้รับการเว้นภาษี    
                                                                                                                       
16. ได้รับสัมปทานสื่อโฆษณาที่รถไฟใต้ดิน โดยที่ไม่ได้รับการเปิดประมูลเพื่อแข่งขันกับบริษัทอื่น                                                    
                                                                                                                       
17. ทักษิณ สั่ง รมต. กลางวง ครม. ลดค่าเช่าพื้นที่ย่านสยามสแควร์ เปิดทางลูก-หลานเปิด สตูดิโอ ร้านกาแฟ อ้างค่าเช่าแพงเกินจริง                  
                                                                                                                       
18. ลดเงินค่ารถไฟฟ้า-ใต้ดิน พอดีกับงานสวนสนุกธุรกิจของลูกๆ สอดคล้องสนับสนุนกันพอดี บังเอิญจริงๆ                                            
                                                                                                                       
19. ทักษิณพูดว่า จังหวัด ไหนเลือกไทยรักไทย จะให้ความดูแลก่อนน้ำท่วมภาค ใต้ 5 วันแล้ว แต่ทักษิณไปช่วยหาเสียง เลือกตั้งซ่อม ไปกินก๋วยเตี๋ยวสร้างภาพ ไป  
เดินตลาดหาเสียง ทั้งๆที่มี สส อยู่เต็มสภาแล้ว แต่ที่ต้องลงใต้ไปดูน้ำท่วมวันศุกร์เช้า เนื่องจากกลัวสนธิพูดตอนเย็นในรายการเมืองไทยรายสัปดาห์              
                                                                                                                       
20. การที่มีพวกพ้องตัวเองเป็น กกต. จึงเปลี่ยนรูปแบบการเลือกตั้งให้สามารถโกงการเลือกตั้งเพิ่มขึ้นได้อีก 2 วิธี                                    
o ปั๊มตรายางอีกชุดรอเวลาเปลี่ยนกล่องบัตร ได้ทุกเวลา                                                                                
o หมึกมีแบบล่องหน และ แบบโผล่ขึ้นมาได้ (ในทางเคมีสามารถทำได้)                                                                    
                                                                                                                       
21. ปิดข่าวเรื่องไข้หวัดนกทําให้ชาวบ้าน ที่ไม่ทราบต้องตายแล้วยังไปแสดงการกินไก่ไปหัวเราะไปเพื่อ ซีพี.นายทุนพรรคเท่านั้น                            
                                                                                                                       
22. ทําให้เกิดการฆ่าตัดตอนประชาชนผู้ บริสุทธิ์ กว่า 2000 คนจากการปราบยาบ้าสั่งฆ่าคนได้ หน้าตา เฉย โหดร้ายทารุณ                                
                                                                                                                       
23. ซุกหุ้นปั่นหุ้น ซุกซ่อนทรัพย์สินไว้กับญาติพี่น้อง เอาเงินไปฟอกต่างประเทศ เอาเปรียบในการทําธุรกิจผูกขาด ทั้งรับทั้งจ่ายใต้โต๊ะจนคนในวงการธุรกิจเขารู้กันหมด
ค้า กำไรเกินควร จนรํ่ารวย มหาศาลโกง                                                                                          
                                                                                                                       
24. ที่ดินวัดของสนามกอล์ฟอัลไพน์ มีคนโกงที่ดินธรณีสงฆ์เอามาทำสนามกอล์ฟ แล้ว ทักษิณ ไปซื้อต่อทั้ง ๆ ที่รู้ว่าที่ดินนั้นได้มาไม่ถูกต้อง เพราะไม่กลัวบาปกรรม      
                                                                                                                       
25. ประชาชนเสียรู้ทักษิณ เรียนฟรี 12 ปี นโยบายรัฐที่เปิดช่องให้โรงเรียนนำค่าใช้จ่ายอย่างอื่นมาเพิ่มแทนค่าเทอม นั่นแหละ สุดท้ายก๊อไม่ได้เรียนฟรีอยู่ดี เป็น    
ความล้มเหลวที่เห็นได้ชัดเจนของการปฎิ รูปการศึกษาไทย ประชาชนจะถูกหลอกอีก 4 ปีเอาเข้าไป เป็นความจริงที่สุดเลย นี่คือการโกหกที่ยิ่งใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยเห็นมา
ในโลกนี้ ซึ่งหาดูไม่ได้ที่ไหนนอกจากประเทศไทย ที่กฎหมายบอกว่าเรียนฟรี แต่ความจริงมีใครบ้างที่เรียนฟรี ถามผู้ปกครองทุกคนดูได้เลย ออกความเห็นแค่นี้นะ ขอตัว
ไปกู้เงินมาจ่ายค่าเล่าเรียนให้ลูกก่อน                                                                                              
                                                                                                                       
26. ชั่วเวลาแค่ปีเศษ ๆ รัฐบาลชุดนี้ก็ทำให้สถานการณ์ภาคใต้ที่ร่มเย็นเป็นสุขมานานหลายสิบปี กลับร้อนระอุกลายเป็นแดนมิคสัญญี                            
                                                                                                                       
27. เช่าน่านฟ้า เช่าผืนแผ่นดินไทย ราคาเช่าช่างถูกจัง มีอะไรแอบแฝงรึเปล่า ตนเองน่าจะรู้ดี ไหนบอกว่าแผ่นดินไทยจะไม่ให้หายแม้แต่ตารางนิ้วเดียวไง ใช้    
อำนาจจนเลยเถิดไม่เห็นด้วยคิดไงท่าน นายก ที่ให้เช่า 15 ปี แถมมีเปลียนสัญญาได้ ทุกๆๆ 5 ปี เหมือนทำ ธรุกิจเลยอ่าขอเชิญชาวไทย เรียกร้องอฺธิปไตยชาติไทย  
กลับมาด้วยขอให้มี สส สว ที่ยังพอมีความเป็นไทย ทีมิใช่มีความเป็น ทรท. ช่วยกันคัดค้าน ล่ารายชื่อด้วยครับผมว่ามันเกี่ยวกันหมดแหละครับ ตั้งแต่ AIS (มือถือ)    
ไทยคม1 ไทยคม2 IPstar ชินคอร์ป ธนาคาร ธุรกิจ การเมือง อยู่ในมือสิงคโปร์ทั้งหมดแล้วครับ                                                  
ชัดเจน มีผลประโยชน์ทับซ้อนแหง๋ ไม่งั้นไม่งุบงิบกันทำหรอก อย่านึกว่าประชาชนโง่ นะคุณนายก                                                    
ยุคทักษิณคือ ยุคของเงินเหนือรัฐ ยุคตำรวจรังแกประชาชน ยุคทหารฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ ยุคความรุนแรงอยู่เหนือเหตุผล                                      
                                                                                                                       
28.ฉลาด อย่างตัวจับยาก เอาเงินหลวง ไปหว่านให้รากหญ้าแล้ว ผ่านกระเป๋ารากหญ้า แบบเคาะกะลาให้หมาดีใจ ผ่านธุรกิจมือถือ เข้ากระเป๋ามันเอง          
                                                                                                                       
29.ยุบสภาหนีความผิด เนื่องจากนายกองค์การนักศึกษา ม.ธรรมศาสตร์ ล่า 50,000 รายชื่อ เพื่อถอดถอนนายกรัฐมนตรีออกจากตำแหน่ง                    
                                                                                                                       
30. ยุบสภาได้ยังไงไม่ได้มีปัญหาภายในสภาสักหน่อย อภิปรายไม่ไว้วางใจก็ไม่ได้ ฝ่ายค้านมีไม่พอ                                                  
                                                                                                                       
31. วันที่ประกาศยุบสภา ประกาศพร้อมกันว่าให้ไปเลือกตั้งวันที่ 2 เมษา ได้ยังไง รู้ได้ยังไง ไหนว่า กกต. เป็นกลางไง                                
                                                                                                                       
32. คุณหญิงพจมาน อยากมีสมเด็จพระสังฆราชประจำตระกูลตัวเอง จึงให้นายวิษณุ เครืองาม ลงนามแต่งตั้ง สมเด็จพระพุฒาจารย์ เกี่ยว อุปเสโณ วัดสระเกศ ขึ้น  
ปฏิบัติหน้าที่แทนสมเด็จพระสังฆราช เมื่อวันที่ 13 มีนาคม 2547 เสมอกับ สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปรินายก ที่พระบาทสมเด็จ        
พระเจ้าอยู่หัวทรงสถาปนา อ้างว่า สมเด็จญาณฯ ทรงประชวร ไม่สามารถประกอบศาสนกิจได้ ทั้งๆที่มี VDO วันที่ 13 มีนาคม 2547 สมเด็จพระสังฆราชพระราชทาน
รางวัลให้กับเด็กนักเรียน ที่ได้รับทุนของมหามกุฏราชวิทยาลัย ในการประกวดเรียงความเรื่อง สมเด็จพระสังฆราช 90 พรรษา                            
                                                                                                                       
33. คุณหญิงจารุวรรณ เมณฑกา ผู้ว่า สตง. ตรวจเจอการทุจริตของรัฐบาลหลายเรื่อง ล่าสุดตรวจสอบเจอการทุจริต CTX ทางรัฐบาลจึงอ้างว่ากระบวนการสรรหา  
คุณหญิงจารุวรรณ เมณฑกา ดำรงตำแหน่งผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน(ผู้ว่าการ สตง.) มิชอบด้วยรัฐธรรมนูญ (ทั้งๆที่ได้รับการแต่งตั้งจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่ หัว)
คุณ หญิงปิดห้องทำงานแล้วยังไปงัดห้องคุณหญิง คิดจะหาหลักฐานทุจริตที่ห้องคุณหญิง ล่าสุดคนดีอย่างคุณหญิงก็ได้กลับมาทำงานเหมือนเดิม                        
                                                                                                                       
34. จัดซื้อเครื่องบินรบ ซู30 ตั้งงบประมาณ ไว้ 35,000ล้าน ทั้งที่รัสเซียบอกว่าขายแค่ 20,000ล้าน กะจะกินตั้ง 15,000ล้าน เครื่องบินเป็นแบบบินระยะไกล เสีย  
ค่าซ่อมเยอะ (ไทยนี้รักสงบ) เราเป็นพวกบุกรุก หรือ ตั้งรับ ถ้าเราเป็นฝ่ายตั้งรับ แล้วจะซื้อเครื่องบินระยะไกลทำไม ให้ช่างทหารอากาศเลือกซื้อ ทำไมไม่ให้นักบิน
เป็นคน เลือก เพราะฝ่ายช่างอยู่ในความดูแลของ พล.อ.อ.คงศักดิ์ วัณทนา สามีของเพื่อนคุณหญิงพจมาน...                                          
                                                                                                                       
35. ก่อนขายหุ้นบอกว่าจะไปพักผ่อนที่สิงคโปร์ 4 วัน เดินเล่นที่สิงคโปร์ไปเดินครึ่งวันอยากมากก็วันเดียว ก็ไม่รู้จะไปเดิน ที่ไหนแล้วนี่ไปถึง 4 วันเจรจาขาย หุ้น แต่  
โกหก ประชาชนคนไทยว่าจะไปพักผ่อน บอกตรงๆก็ได้                                                                                  
                                                                                                                       
36. จัดซื้อ CTX ราคา ระหว่าง บทม.และใบแจ้งราคาสินค้าของบริษัท อินวิชั่นฯ เป็นเงินประมาณ 283,000 เหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 11.30 ล้าน บาทต่อ    
เครื่อง หากคิดรวม 26 เครื่อง เป็นเงิน 7.36 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 294.4 ล้านบาท ซึ่ง ส่วนต่างราคานี้ถูกนำไปใช้บันทึกซ้ำซ้อน โดยอ้างว่า เป็น
อุปกรณ์ที่ต้องการซื้อเพิ่มเติม ทั้งที่รวมอยู่ในราคา 35.8 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 1,432 ล้านบาท กะจะกิน 1,432ล้าน – 294.4ล้าน = ?    
                                                                                                                       
37. ร่วมทุนชินคอร์ปกับมาเลเซีย เปิดธุรกิจสายการบิน Low Cost แล้วสั่งยกเลิกเที่ยว บินการบินไทยที่ได้กำไร แล้วเอาสายการบินของตัวเองไปบินทับที่แทน ทำให้  
การบินไทยซึ่ง เป็นสายการบินของคนไทยขาดทุน แล้วทำ หนังสือถึงหน่วยงานราชการว่านอกจากการบินไทยแล้ว สามารถใช้งบหลวงเบิกค่านั่งเครื่องบิน Low Cost  
ได้ด้วย แล้วยังขายหุ้น Low Cost ให้สิงคโปร์อีก ทำให้ Low Cost ที่มี เที่ยวบินที่กำไรดีที่สุด(แย่งจากการบินไทย) เป็นเที่ยวบินของ มาเลเซีย+สิงคโปร์        
(ขายชาติ)                                                                                                                
                                                                                                                       
38. โทรศัพท์เครื่องที่ระบบ 1900 "ไทยโมบาย" ของ ทีโอที มันให้ ทีโอที ตั้งเสาเฉพาะใน กทม. ส่วนในต่างจังหวัด มันไม่ยอมให้ตั้งเสาทั้งๆที่ ทีโอที มีที่ดินอยู่  
มากมายในต่าง จังหวัด มันสั่งให้ ระบบ 1900 ของทีโอที ในต่างจังหวัด ใช้เสาสัญญาณของ AIS โดยโทร 3 บาท ทีโอที ต้องจ่ายให้ AIS 2 บาท ทีโอที ได้ 1 บาท
สุดยอดไหมละครับ                                                                                                            
                                                                                                                       
39. ปี 2535 – วิ่งเต้นจนได้รับ สัมปทานดาวเทียมไทยคมโดยการสนับสนุนอย่างดีจากรัฐบาลเผด็จ การ รสช. โดยอิงความสัมพันธ์ที่สนิทแนบแน่นกับ พล.อ.สุนทร คง
สมพงษ์ ซึ่งก็ชดใช้บุญคุณมาจนถึงสนับสนุน 2 คนสนิทของท่านให้ได้ดีในยุคนี้ คือ พล.อ.สัมพันธ์ บุญญานันท์ เคยได้เป็นรมว.กลาโหม และ พล.อ.เรืองโรจน์        
มหาสรานนท์ เพิ่งได้เป็นผบ.สูงสุด                                                                                                
                                                                                                                       
40. การพูดจาบจ้วงดูหมิ่นพระบรมฯ                                                                                              
                                                                                                                       
o สำนักราชเลขาฯ ขอให้รัฐบาลพิจารณาเครื่องบินราชพาหนะลำใหม่..แทนลำเก่าที่ชำรุดมากแล้ว .....ทักษิณ อ้างว่า ไม่มีงบประมาณ แต่สุดท้าย ซื้อเครื่องบินไทย
คู่ฟ้าให้ตนเองและครอบครัวนั่งก่อน..จากข่าวที่น้องสาว ทักษิณใช้เครื่องบินไปฉลองวันเกิดที่เชียงใหม่...............                                
                                                                                                                       
o ทักษิณ ชินวัตรใช้อุโบสถวัดพระแก้วในการทำบุญประเทศ (แต่ แต่งกายในชุดสบายๆไม่เป็นทางการ) ทั้งๆที่ประธานในการทำบุญระดับประเทศควรเป็นพระองค์      
ท่านมากกว่า...ที่สำคัญ อุโบสถวัดพระแก้วเป็นสถานที่ที่ใช้สำหรับประกอบศาสนพิธีของพระมหากษัตริย์ ตั้งแต่โบราณจนถึงปัจจุบัน..ไม่มีการขอพระบรมราชานุญาต..พอ
สนธิพูดในรายการ ..รีบ ขอพระบรมราชานุญาตย้อนหลัง...จนพระองค์ท่านออกมาตรัสในวันที่ 4 ธันวาคมว่า นายกฯจะให้ท่านทำอะไรก็ทำให้หมด แต่ควรพิจารณาด้วย
ว่า สมควรหรือไม่                                                                                                            
                                                                                                                       
o ทักษิณ ชินวัตร กล่าวว่า ถ้านายกฯไม่จงรักภักดี ผีที่ไหนจะจงรักภักดี....คนระดับทักษิณมีการศึกษาสูงพอ ผ่านงานพระราชพิธีมามากมาย..ย่อมควรรู้ดีว่าสมควรพูด  
เช่นนี้หรือไม่....ถ้า มีปัญญาก็ควรพูดว่า ถ้านายกฯไม่จงรักภักดี ใครเล่าที่จะจงรักภักดี มากกว่าครับ                                                
                                                                                                                       
o ทักษิณ ชินวัตร กล่าวว่า ถ้าในหลวงมากระซิบข้างหู...(พูดว่าข้างหู) ว่าออกเถอะ จะกราบพระบาทบังคมลาทันที...คำหลังยังใช้ราชาศัพท์เป็น แต่คำหน้าไห    
งใช้คำว่า มากระซิบข้างหู...ทักษิณ ไม่ควรทำตัวเสมอพระองค์ท่าน                                                                        
                                                                                                                       
o แม่ยายของทักษิณ กล่าวจาบจ้วงว่า บางทีตนอาจขอม็อบพระราชทานบ้าง คำว่า สิ่งพระราชทาน ล้วนแล้วแต่เป็นสิ่งที่มงคล เป็นสิ่งที่ดี แต่คำว่า ม็อบ หมายถึง กลุ่ม
ผู้ชุมนุมที่เรียกร้องบางอย่าง พระองค์ท่านจะพระราชทานได้อย่างไร...ไม่สมควรพูด                                                            
                                                                                                                       
o ทักษิณ ชินวัตร กล่าวว่า ตนเป็นนายกฯพระราชทานอยู่แล้ว ถ้าได้กลับมาอีกครั้ง พระองค์ท่านต้อง...ใช้คำว่า ต้อง เซ็นต์ให้ตนเป็นนายกฯอยู่วันยังค่ำ          
                                                                                                                       
o ทักษิณ ชินวัตร กล่าวว่า โผทหารที่นายกฯเซ็นต์แล้ว ใครจะกล้าเปลี่ยน...หมายถึงใคร เพราะโผทหารหลังจากนายกฯเซ็นต์แล้ว ขั้นตอนต่อไปคือการนำทูลเกล้าฯ  
ใครที่นายกฯหมายถึง........ การจาบจ้วงด้วยวาจาและการกระทำถึง 7 ครั้ง ไม่เห็นมีใครที่บอกว่า รักในหลวง ออกมาปกป้องพระองค์ท่านสักคน โดยเฉพาะ    
ตำรวจและทหาร พอสนธิออกมาปกป้อง..ก็โจมตีกันใหญ่..ไม่เข้าใจคนไทยเลยครับ                                                            
                                                                                                                       
41. ใช้หนี้ IMF เกิด จากการออกพันธบัตรให้คนไทยและชาวต่างชาติซื้อ แล้วนำเงินไปใช้หนี้ ความจริงก็คือ *** ้หนี้จากคนไทยและชาวต่างชาติ มาใช้หนี้ IMF    
สร้างภาพ เพราะเราก็ยังเป็นหนี้อยู่ดี                                                                                              
                                                                                                                       
42. ตัวเลขรายได้เฉลี่ยของคนไทยเพิ่มขึ้น ถ้าไม่นำรายได้ของทักษิณมารวม แล้วหาร 60ล้าน ตัวเลขจะเพิ่มขึ้นไหม? พ่อแม่พี่น้องคิดดูดีๆ                      
                                                                                                                       
43. โครงการ 30 บาท รักษาทุกโรค ก่อนมีโครงการ 30 บาทรักษาทุกโรค ผู้ป่วยยากจนไม่ต้องเสียเงินรักษาแม้แต่สตางค์เดียว ส่วนคนพอมีเงินบ้างก็จ่ายตามมีตาม  
เกิด คนรวยไม่ต้องพูดถึง จ่ายเต็มที่อยู่แล้ว ทำให้โรงพยาบาลมีเงินหมุนเวียนจับจ่ายซื้อยาได้เต็มที่ ผู้ป่วยก็ได้รับการรักษาเท่าเทียมกันไม่แบ่งชั้น การฟ้องร้องหมอก็มี  
น้อย แต่พอนายทักษิณเข้ามา แล้วมีโครงการ 30 บาทตายทุก โรค คนทุกระดับเสีย 30 บาทเท่ากันหมด ทำให้โรงพยาบาลขาดทุนยับเยิน ทำให้ไม่สามารถจับจ่ายซื้อยา
ดีๆมารักษาผู้ป่วยได้ คนไข้ตายมากขึ้น มีการฟ้องร้องหมอมากขึ้น จนหมอส่วนหนึ่งลาออกไปทำงานโรงพยาบาลเอกชนหรือเลิกอาชีพแพทย์ไปเลย คนมีเงินส่วนใหญ่ไม่  
อยากไปรักษา รพ รัฐ เพราะกลัวตาย จึงหนีไปรักษาโรงพยาบาลเอกชน ทักษิณวางแผนไว้ล่วงหน้าว่าจะเกิดอย่างนี้ จึงไปกว้านซื้อ รพ เอกชนดีๆไว้เกือบหมด เพื่อ  
ขูดรีดคนพอมีเงิน ส่วนคนชั้นกลางจะหนีโรงพยาบาลรัฐไปหาหมอที่คลินิก อย่าเข้าใจผิดว่าหมอที่เปิดคลินิกเป็นหมอพาณิชย์ หมอที่ทำงาน รพ รัฐ เงินเดือนเริ่มต้นแค่    
8,000 บาท (แปดพันบาท) เพิ่งได้ขึ้นเมื่อปลายปีที่แล้วเป็น 10,000 บาท ตอนเกษียณอายุได้เงินเดือนแค่ 30,000 กว่าบาท แล้วจะให้พอกินพอใช้ได้อย่างไร จึงจำ
เป็นต้องเปิดคลินิกหลังเลิกงานเพื่อหาราย ได้เสริมพอเลี่ยงตัวเองและ ครอบครัว ส่วนใหญ่หมอคลินิกมักไม่คิดค่าตรวจ (doctor free) เพราะได้กำไรจากค่ายาค่อน
ข้างเยอะแล้ว เพราะสามารถซื้อยาจากบริษัทยาได้ในราคาเป็นแกลลอน ซึ่งต่างจากร้านขายยาทั่วไปต้องซื้อเป็นขวดเล็กๆ ราคาจึงต่างกันมาก ยกตัวอย่าง ยาพารา  
แก้ไข้ ขนาด 60 ซีซี ร้านขายยาขายขวดละ 12-60 บาท แต่คลินิกเอายาจากแกลลอนแบ่งใส่ขวด 60 ซีซี ราคาทุนแค่ขวดละ 3-15 บาทแล้วแต่ ยี่ห้อ ดังนั้นหากหมอ  
ขายในราคาเท่าร้านขายยาก็ได้กำไรมากพอแล้ว ไม่จำเป็นต้องคิดค่าตรวจ ทำให้ค่ารักษาพยาบาลในคลินิกถูกกว่าในโรงพยาบาลเอกชนมาก และแพงกว่าใน รพ รัฐ  
ไม่ มาก คนชั้นกลางจึงไปใช้บริการของคลินิกมาก เพราะบริการดีกว่าเร็วกว่า ทักษิณรู้แกวจึงวางแผนกดดันคลินิก โดยบังคับให้คลินิกเลิกจ่ายยาให้ผู้ป่วย แต่ให้ผู้ป่วย  
จ่ายค่าตรวจเพื่อแลกกับคำวินิจฉัยและใบสั่งยา เพื่อเอาไปซื้อที่ร้านขายยาแทน จากนั้นก็ให้ยายสุดารัตน์ไปเทคโอเวอร์ยี่ปั๊วขายยาที่ขายให้แก่ร้านขายยาราย ย่อยและ  
โรง พยาบาล ตัวอย่างคือ บริษัทฟาสซิโน และอื่นๆ เพื่อเป็นโมโนโปลี่ขายยาแต่ผู้เดียวขูดรีดจากผู้ป่วยได้ตามใจชอบ ทำให้ผู้ป่วยชั้นกลางเลิกมาคลินิก เพราะไม่อยาก  
เสียเวลา 2 ต่อ แถมยังเสียเงินแพงพอๆกับ รพ เอกชนอีกด้วย จึงหันไป รพ เอกชนแทน ทักษิณจึงกว้านซื้อโรงพยาบาลเอกชนดีๆไว้ ทักษิณมันเลวมั๊ย.......      
                                                                                                                       
44. บ้านเอื้ออาทร...ช่วยให้เป็นหนี้กองทุนวายุพักตร์ของตัวเอง แต่เอาธนาคารรัฐมาบังหน้าไว้ก่อน ทั้งที่เราก็มี อาคารสงเคราะห์มาตั้งนานแล้ว แถมเอาที่ดินราช  
พัสดุมาทำอีก ไม่ได้ลงทุนอะไรสักอย่างแต่กำไรเข้ากระเป๋าตัวเอง...นี่แหละ นายกนักธุรกิจ                                                      
                                                                                                                       
45. กองทุนหมู่บ้าน ตามหลักเศรษฐศาสตร์แล้ว กองทุนหมู่บ้านนับว่าเป็นนโยบายที่ดีมากๆๆๆ แต่การนำมาใช้กับประเทศไทยนี่นับว่า ไม่ควรครับ เพราะ เป็นการทำให้
ชาวบ้านเอาหนี้นอกระบบ มาเป็นในระบบ และในที่สุด ชาวบ้านก็ชักดาบ ไม่จ่ายเงินให้กับกองทุนหมู่บ้าน เพราะว่า ไม่มีกฏหมายตัวไหนจะเล่นได้เลยครับ จะใช้    
กฏหมายแพ่งมาเล่น กับการที่ไม่ยอมใช้หนี้ก็ไม่ได้ เพราะว่า นี่มันขัดกับหลักการของ กองทุน จริงๆจะเล่นก็ได้ครับ แต่ถ้าเล่นแล้วรับรองว่า เป็นข่าว ทางรัฐก็เลย    
ยอมๆเงียบๆไป และตามหลักการแล้ว เงินกองทุนที่เขาให้เอามานั้น เขาให้เอามาลงทุน ครับ ไม่ใช่เอามา ดาวส์รถ ซื้อ มือถือ ครับ นี่นับว่าผิดวัตถุประสงค์กองทุน  
และไม่ได้ ดำเนินตามหลักการเลยแม้แต่นิดครับ ที่เป็นแบบนี้เพราะว่า คนควบคุมกองทุนในแต่ละหมู่บ้านนั้น ก็คือ คนในหมู่บ้านกันเอง และก็เป็น ผู้ใหญ่บ้านนั่นเองครับ  
ซึ่งก็ไม่ได้รับการอบรมเรื่องการบริหารเงินเลย และก็ยังมีนอกมีในอีก กองทุนหมู่บ้านจึงล้มเหลวด้วยประการนี้ครับ                                      
                                                                                                                       
46. ถ้าประชาชนเป็นหนี้ ธกส.แล้ว บ้านเอื้ออาทร และกองทุนหมู่บ้านก็แล้ว สิ้นเดือนหาเงินจ่ายดอกไม่ได้ อย่าลืม *** ้ Capital OK ธุรกิจผมนะครับ          
                                                                                                                       
47. แปรรูปการท่าเรือ แล้วทำโครงการพัฒนาท่าเรือคลองเตย ต่อด้วยท่าเรือบ้านฉาง แล้วให้เทมาเส็กซื้อหุ้นการท่าเรือของประเทศ โดยมีข้อตกลงให้ขุดคอขอดกระ
ดังนั้นจึงมีโครงการ Mega Project ขุดคอขอดกระ ขณะที่เทมาเส็กสิงคโปร์ขายท่าเรือที่ประเทศตัวเองให้กับดูไบ                                      
                                                                                                                       
48. ให้สัมปทานเหมืองทองคำ 19 ปีที่จังหวัดพิจิตร พิษณุโลก และเพชรบูรณ์กับออสเตรเลีย โดยไทยได้ค่าสัมปทานประมาณ 250 ล้านบาท ค่าดำเนินการ 30 ล้าน  
บาท ได้ค่าภาษี 700 ล้าน บาท ต่างประเทศได้จากการส่งออกทองคำที่ขุดได้กว่า 10,000 ล้านบาท ปัจจุบันขุดหมดแล้วรวมเวลา 4ปี ปัจจุบันอยู่ระหว่างขอสัมปทาน  
เหมืองทองคำที่ใหม่ต่อ จาก สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ                                                                                    
                                                                                                                       
49. ร่าง พรบ.เศรษฐกิจพิเศษ กำลังพยายามเปลี่ยนกฎหมายให้ชาวต่างชาติเข้ามาถือครองที่ดินได้ จะเหมือนเกาะฮ่องกง ที่เคยเป็นของอังกฤษ, ใครทำผิด กฎหมาย
มา จากจังหวัดอื่น พอเข้ามาในเขตเศรษฐกิจพิเศษนี้ กฎหมายนั้นไม่สามารถ ทำอะไรได้, เปิดบ่อนเสรี, ออก พันธบัตรหรือตราสารหนี้ใช้เอง ฯลฯ จะยึดครองประเทศ
เหรอ? ล่าสุดคุณ หญิงอ้อ ได้กว้านซื้อที่ แถวสุวรรณภูมิเตรียมไว้แล้ว                                                                        
                                                                                                                       
50. โอนหุ้นให้ขี้ข้า คนขับรถ ปกปิดเลี่ยงภาษี / เลี่ยง กม. เลือกตั้ง                                                                      
                                                                                                                       
51. เสนอเงินซื้อ สส. พรรคอื่น / ซื้อคนโง่ๆเห็นแก่เงินให้เลือกตน                                                                      
                                                                                                                       
52. พูดจาโกหกตอแหลเป็นอาจิณ ตลอดจนพูดจาเอาดีใส่ตัวเอาชั่วให้คนอื่น ด่าว่าคนอื่นเขาโง่กันหมด